EN-ชวนไปดูสวิงขาอ่อนโลก ที่สยามคันทรี่คลับ
สนามกอล์ฟสยามคันทรี่คลับ เป็นสนามปิดของเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย ก่อตั้งโดยดร.ถาวร พรประภา ที่เห็นถึงศักยภาพของการสร้างสนามกอล์ฟในเมืองท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี และสามารถเทียบชั้นระดับโลกได้ สนามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนกันยายน ปี 1969 รวมระยะเวลายาวนานถึง 38 ปีแล้ว เคยเป็นสังเวียนการแข่งขันกอล์ฟไทยแลนด์ โอเพ่น 4 ครั้ง เป็นเจ้าภาพจัดเอเชี่ยนกอล์ฟเซอร์กิตอีกหลายรายการ และล่าสุด รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าบ้านจัดกอล์ฟอาชีพสตรีระดับโลกรายการ ฮอนด้า-พีทีที แอลพีจีเอไทยแลนด์ 2010 ชิงเงินรางวัลรวม 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 43 ล้านบาท (ศึกระดับโลกแม็ทช์นี้จัดในเมืองไทยมาแล้ว 3 ครั้ง ปี 2006 เป็นปีแรกจัดที่สนามอมตะ สปริง คันทรี่คลับ,ปี 2007 สยามคันทรี่คลับ โอลด์คอร์ส,ปี 2009 สยามคันทรี่คลับ แพลนเทชั่น)
โดยปีนี้กลับมาจัดการแข่งขันที่สนามกอล์ฟสยามคันทรี่คลับ พัทยา โอลด์คอร์ส อีกครั้ง ลองนึกภาพสวิงขาอ่อนแม่เหล็กระดับโลก 50 คนมารวมตัวกัน อาทิ ลอเรน่า โอชัว มือ1 ของโลกชาวเม็กซิกัน, พอลล่า ครีมเมอร์ แม่เสือสาวสีชมพูชาวสหรัฐฯ ที่มีแฟนคลับมากมายเหลือเกิน,นาตาลี กุลบิส สวิงสาวหุ่นทรมานใจชาย ที่มีปฏิทินภาพเซ็กซี่ของตัวเองขายไปทั่วโลก และเป็นที่ฮือฮามากที่ บิ๊กวีซี่-มิเชล วี ตอบรับการแข่งขันในเมืองไทยเป็นครั้งแรก โดยเธอตั้งใจมากกับแม็ทช์นี้ ลงทุนเดินทางมาล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 14 แข่งจริงวันที่ 18-21 กุมภาพันธ์ รวมถึง 5 สาวไทยที่ลงสนามเคียงบ่าเคียงไหล่นักกอล์ฟระดับโลกได้แก่ โปรอุ๋ย-วิรดา นิราพาธพงศ์พร,โปรฝน-รัศมี กัลป์ยานมิตตา,โปรเน็ท-นนทยา ศรีสว่าง,น้องจูเนียร์-ธิฎาภา สุวัณณะปุระ และน้องเม-เอรียา จุฑานุกาล งานนี้จึงไม่อยากให้แฟนกอล์ฟตัวจริงเสียงจริงพลาดแม้แต่วันเดียว
มาว่ากันถึงสนามแข่งขันกันบ้าง สยามคันทรี่คลับ โอลด์คอร์ส ตั้งอยู่ในเนื้อที่ 800 ไร่ บนถนนสุขุมวิท เดินทางสะดวกโดยใช้ทางด่วนเส้นมอเตอร์เวย์ ตรงไปชลบุรี ถึงทางแยกพัทยา ให้เลี้ยวซ้ายไปทางระยอง หากมองด้านขวาเห็นสนามแข่งรถพีระเซอร์กิต ให้เตรียมยูเทิร์น รับรองถึงแน่เพราะมีป้ายบอกตลอดทาง
สนามสยามคันทรี่คลับ โอลด์คอร์สออกแบบโดย I.Izumi และได้รับการรีโนเวทโดย Schmidt Curley Design Inc.ทั้งในส่วนของคลับเฮ้าส์ที่ปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่หมด ภายในมีล็อคเกอร์ รูม อยู่ที่ชั้นล่าง มีภัตตาคารทั้งห้องแอร์และโอเพ่นแอร์ บนชั้น 2 มีฟังก์ชั่น รูม ที่ชั้น 3 ซึ่งสามารชมวิวสนามกอล์ฟได้สุดลูกหูลูกตา ในส่วนสนามกอล์ฟ ต้นไม้ใหญ่ดั้งเดิมถูกตัดแต่งให้ล้อกันไปกับเลย์เอ้าท์สนาม หญ้าแฟร์เวย์ใช้ซีชอว์ พาสพาลั่ม กรีนใช้หญ้าโนโวเทก นอกจากนี้ยังเติมความท้าทายด้วยหลุมทรายถึง 101 บังเกอร์ คาดว่าทั้งนักกอล์ฟและคนดูต้องลุ้นกันทุกขณะจิต งานนี้คนดูกอล์ฟบ้านเรานอกจากจะเข้าไปชมวงสวิงสวยๆของโปรสตรีระดับโลกแล้ว ยังเป็นหนึ่งในหลายหมื่นคนที่เข้าไปสร้างประวัติศาสตร์การเป็นผู้ชมรายการกอล์ฟที่มากที่สุดในเมืองไทยอีกด้วย
คอลัมน์ สวิงออนทัวร์ เรื่อง / ภาพ โดย วราพร ปานบุญห้อม
manager.co.th/sport