ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานแต่งงาน หลายคนคงคุ้นเคยกับธรรมเนียมในการโยนช่อดอกไม้ให้หนุ่มสาวคนโสดรับ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่มีมานานและปัจจุบันยังคงได้รับความนิยม เพราะเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้รับช่อดอกไม้จะมีแต่ความโชคดี และมีโอกาสจะสละโสดเป็นคนต่อไป แต่การโยนช่อดอกไม้มีความเป็นมาอย่างไรวันนี้เราจะพามาไขปริศนากัน

เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ในวันแต่งงานมีที่มาอย่างไร?

ย้อนกลับไปในอดีต มีการศึกษาว่าชาวกรีกและโรมันโบราณในสมัยนั้นเจ้าสาวจะถือช่อสมุนไพร และเครื่องเทศต่างๆ  เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ปีศาจร้าย และโชคร้ายออกไป โดยแขกที่เข้ามาร่วมงานมีความเชื่อว่าการได้ชุดเจ้าสาว หรือชิ้นส่วนอื่นๆ ของเจ้าสาวในวันงานแต่งจะนำพาความโชคดีให้แก่ตนเอง แถมผู้ที่ได้ครอบครองก็มีโอกาสได้สละโสด จึงทำให้ทุกคนพยายามจะแย่งชิ้นส่วนของชุดเจ้าสาว หรือพยายามจะเอาช่อดอกไม้ในมือเจ้าสาวไปในช่วงท้ายพิธี ท้ายที่สุดเจ้าสาวจึงได้โยนช่อดอกไม้เพื่อหลบหนีจากแขกในงาน จนเป็นจุดเริ่มต้นของธรรมเนียมโยนช่อดอกไม้แทน

ช่อดอกไม้งานแต่งงานต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

ช่อดอกไม้ในงานแต่ง เจ้าสาวควรเลือกชนิดของดอกไม้ และทรงช่อดอกไม้ให้เข้ากับตัวเอง เพราะเจ้าสาวต้องถือเพื่อเข้าพิธีในช่วงแรกด้วย โดยทรงช่อดอกไม้ที่นิยมใช้ในงานแต่งจะมีหลายทรง เช่น ทรงกลม ทรงก้านยาว ทรงโพซี่ ซึ่งทรงที่นิยมมากที่สุดคือ ทรงกลม เนื่องจากมีขนาดเล็กพอดีมือ และสะดวกในการถือเข้าพิธี

โยนช่อดอกไม้แบบไหนได้บ้าง?

เดิมทีการโยนดอกไม้จะโยนแบบหันหลัง แต่ยังมีแบบอื่นๆ อีก ที่ในปัจจุบันเริ่มนำมาใช้กัน เช่น โยนช่อดอกไม้ด้วยริบบิ้น เล่นเกมเพื่อชิงดอกไม้แทนการโยน หรือการส่งต่อช่อดอกไม้ให้กับเจ้าสาวคนถัดไป

การโยนช่อดอกไม้นอกจากจะเป็นธรรมเนียมที่สืบต่อกันมานาน และมีความหมายในด้านการอวยพรให้แก่ผู้ที่ได้รับช่อดอกไม้แล้ว ยังช่วยสร้างความสนุกสนาน สร้างสีสันให้แก่แขกในงานได้เป็นอย่างดี ให้ทุกคนเกิดเสียงหัวเราะ และความประทับใจในวันงานไม่รู้ลืม มาส่งมอบช่อดอกไม้สวยๆ ไม่ว่าจะให้คนรักในโอกาสไหนก็ประทับใจไม่รู้ลืมได้ที่ urban flowers