กายภาพบำบัดแต่ละแบบต่างกันอย่างไร? เจาะลึกการรักษาแบบมือโปรโดยนักกายภาพบำบัด

  • Posted on: 9 April 2025
  • By: thailandladygol...

เมื่อพูดถึง “กายภาพบำบัด” หลายคนอาจนึกถึงการนวดคลายเส้น การประคบร้อนเย็น หรือท่าบริหารง่าย ๆ แต่ความจริงแล้วโลกของกายภาพบำบัดนั้นลึกและหลากหลายกว่าที่คิดมาก แต่ละรูปแบบมีเทคนิคเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ร่างกายเรากลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และที่สำคัญ – ลดการพึ่งยาและการผ่าตัดในหลาย ๆ กรณี วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 5 ประเภทของกายภาพบำบัดยอดฮิต ที่นักกายภาพมือโปรใช้กันจริง พร้อมอธิบายว่าแต่ละแบบเหมาะกับใครบ้างกันค่ะ

กายภาพบำบัดด้วยมือ (Manual Therapy)
นี่คือเทคนิคพื้นฐานที่หลายคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการนวด กดจุด ยืดกล้ามเนื้อ หรือปรับข้อต่อ โดยนักกายภาพจะใช้มือเปล่าในการรักษา
เหมาะกับ: ผู้ที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง ข้อติด หรือออฟฟิศซินโดรม
จุดเด่น: ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดการเกร็ง และฟื้นฟูการเคลื่อนไหวได้ดีค่ะ

กายภาพบำบัดด้วยไฟฟ้า (Electrotherapy)
การใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหรือคลื่นอัลตราซาวด์เพื่อช่วยลดอาการปวด บวม และกระตุ้นกล้ามเนื้อ
เหมาะกับ: ผู้ที่เจ็บกล้ามเนื้อเรื้อรัง หรือมีอาการชา อ่อนแรงบางส่วน
จุดเด่น: ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น เห็นผลในระยะเวลาสั้นๆค่ะ

กายภาพบำบัดทางระบบประสาท (Neuro Rehab)
ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของผู้ที่มีปัญหาทางระบบประสาท เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคพาร์กินสัน
เหมาะกับ: ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หรือผู้ที่เคลื่อนไหวร่างกายไม่สัมพันธ์กัน
จุดเด่น: เน้นการฝึกสมองร่วมกับร่างกาย เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัยค่ะ

กายภาพบำบัดทางการหายใจ (Respiratory Physiotherapy)
ช่วยฝึกการหายใจ และการขับเสมหะ สำหรับผู้ที่มีปัญหาปอด เช่น COPD หรือผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลนาน ๆ
เหมาะกับ: ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง หรือหลังผ่าตัดใหญ่
จุดเด่น: ช่วยให้การหายใจดีขึ้น ลดความเสี่ยงของปอดอักเสบ และช่วยฟื้นตัวเร็วขึ้นค่ะ

กายภาพบำบัดเพื่อการกีฬา (Sports Physiotherapy)
นักกายภาพจะวิเคราะห์ลักษณะการเล่นกีฬาแต่ละชนิด และออกแบบการฟื้นฟูเฉพาะบุคคล
เหมาะกับ: นักกีฬา หรือผู้ที่บาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
จุดเด่น: ฟื้นฟูเร็ว กลับไปเล่นกีฬาได้ไว และลดโอกาสบาดเจ็บซ้ำค่ะ

แล้วเราควรเลือกแบบไหนดี?
คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับอาการและเป้าหมายของคุณค่ะ
หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเริ่มจากตรงไหน แนะนำให้ปรึกษานักกายภาพบำบัดมืออาชีพ เพราะการประเมินร่างกายอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ไม่เสียเวลา และไม่เสี่ยงทำผิดวิธี
กายภาพบำบัดไม่ใช่แค่การ “นวด” หรือ “ยืดเส้น” อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่มันคือศาสตร์ที่ผสมผสานความรู้ทางการแพทย์เข้ากับเทคนิคเฉพาะทางเพื่อฟื้นฟูร่างกายอย่างลึกซึ้งและยั่งยืน ถ้าคุณกำลังเผชิญกับอาการเจ็บปวดเรื้อรัง เคลื่อนไหวลำบาก หรือแค่รู้สึกว่า "ร่างกายเราไม่เหมือนเดิม" อาจถึงเวลาที่คุณควรให้โอกาสตัวเองได้รู้จักกับ “กายภาพบำบัด” แล้วล่ะครับ ผู้อ่านท่านใดที่มีความสนใจอยากเข้ารับการทำ กายภาพบำบัด สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Rehab Care Clinic คลินิกเฉพาะทางด้านกายภาพบำบัด ที่ดูแลคุณอย่างใส่ใจโดยแพทย์และนักกายภาพบำบัดมากประสบการณ์ ที่พร้อมดูแลคุณและติดตามผลหลังการรักษาอย่างสม่ำเสมอค่ะ