วิธีการดูดไขมันต้นแขนให้ได้ผล
ต้นแขนเป็นบริเวณที่มีผิวหนังบอบบาง และเป็นแหล่งสะสมของไขมันส่วนเกินที่ลดยาก โดยการศึกษาพบว่า ปัญหาไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณต้นแขนส่วนใหญ่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีมวลกล้ามเนื้อที่น้อยกว่าผู้ชาย และมีผิวหนังที่บางกว่า ดังนั้นหากคุณกำลังมีปัญหาต้นแขนใหญ่ ต้นแขนย้อยไม่กระชับ และกำลังตัดสินใจดูดไขมันต้นแขนแต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการดูดไขมันแขน เราแนะนำให้อ่านบทความนี้เลยค่ะ
1. การดูดไขมันต้นแขน ด้วยวิธี Vaser Smooth
การดูดไขมันต้นแขนด้วยวิธี Vaser Smooth สามารถกำจัดไขมันเฉพาะส่วนได้ในปริมาณมาก ทั้งยังสามารถกำจัดไขมันในบริเวณเล็ก ๆ เช่น ข้อศอก รอบต้นแขน ข้อพับต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ทั้งการพักฟื้นมีความรวดเร็ว โดยเฉลี่ยจะใช้เวลา 3 - 5 วันในการพักฟื้นเท่านั้น และรอยแผลมีขนาดเล็กมาก ประมาณ 0.5 มิลลิเมตร แต่มีข้อเสีย คือความกระชับ และการเข้ารูปของผิวหลังทำจะไม่ได้เป๊ะ เมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ
2. การดูดไขมันต้นแขน ด้วยวิธี BodyTite
การดูดไขมันต้นแขนด้วยวิธี BodyTite เป็นการกำจัดไขมันโดยอาศัยพลังงานคลื่นวิทยุ ซึ่งจะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน และช่วยทำให้ผิวหนังเกิดความตึง แน่น กระชับมากขึ้น ทั้งยังสามารถสร้างต้นแขนให้มีไลน์กล้ามเนื้อสวยงาม ชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติ ด้วยมีแผลขนาดเล็กเพียง 0.2 - 0.5 มิลลิเมตร และใช้เวลาพักฟื้น 3 - 5 วัน ส่วนข้อเสียนั่นก็คือการดูดไขมันด้วยวิธี BodyTite จะมีราคาสูงกว่าวิธีการอื่น ๆ
ดูดไขมันต้นแขนหรือดูดไขมันแขนสามารถจบทุกปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกินที่คุณกำลังเป็นกังวลได้ ดังนั้น Issavee Clinic จึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยจบทุกปัญหาไขมันของคุณได้ ด้วยประสบการณ์การดูดไขมันมากกว่า 3,000 เคส สามารถขอรับคำปรึกษาหรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนได้เลยค่ะ