อีกหนึ่งปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อที่พบเจอได้บ่อยก็คืออาการไหล่ติด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่คนส่วนใหญ่กลับยังไม่รู้จักและไม่รู้ว่าจะต้องดูแลตัวเองอย่างไร ยิ่งกว่านั้นยังมีความเข้าใจผิดว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอื่น ส่งผลให้แก้ไขได้ไม่ตรงจุด นอกจากอาการไหล่ติดจะไม่หายไปแล้ว ก็ยังเพิ่มความเสียหายให้กับร่างกายโดยไม่จำเป็น เผลอๆ ยังทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังตามมาอีกด้วย

สังเกตอาการไหล่ติด เจ็บปวดแบบนี้ใช่หรือไม่

            สัญญาณแรกที่จะเกิดขึ้นคือเริ่มยกแขนได้ไม่สุด เมื่อพยายามยกแขนให้มากขึ้นจะเริ่มเจ็บปวดตรงหัวไหล่ ไม่เหมือนกับคนปกติที่ยกแขนสุดแล้วพยายามดันไปอีก จะแค่รู้สึกตึงมากขึ้นเท่านั้นแต่ไม่มีอาการเจ็บ ลักษณะการติดขัดนี้เกิดขึ้นได้ในทุกองศาของการเคลื่อนไหว เช่น บางคนติดเมื่อยกแขนขึ้นด้านบน บางคนติดเมื่อยกแขนขึ้นด้านข้างลำตัว เป็นต้น ซึ่งอาการไหล่ติดนี้ยังแบ่งย่อยได้อีก 3 ระยะ ดังนี้

• ระยะที่เริ่มเจ็บปวด เป็นช่วงที่ยกแขนแล้วรู้สึกเจ็บ คล้ายกับมีการอักเสบหรือบอบช้ำอยู่ภายใน แต่ไม่มีความผิดปกติที่สังเกตเห็นได้ที่ภายนอก บางคนอาจเข้าใจว่าตัวเองทำงานหนัก นั่งหรือยืนผิดท่า จึงละเลยการรักษาในระยะนี้ไป ระยะนี้กินเวลาตั้งแต่ 2-9 เดือนขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน
• ระยะติดขัด เป็นช่วงที่การเคลื่อนไหวผิดปกติไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด วงแขนที่เคยวาดได้กว้างก็จะแคบลง และไม่สามารถเหวี่ยงแขนไปไนบางทิศทางได้ ส่งผลต่อกิจวัตรบางอย่าง เช่น การแต่งตัว การอาบน้ำ เป็นต้น ระยะนี้กินเวลาค่อนข้างนาน บางคนอาจมีอาการไหล่ติดอยู่เป็นปี
• ระยะฟื้นฟู ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยร่างกายจะเริ่มฟื้นฟูตัวเอง แต่ก็ใช้เวลานานหลายปี คือช่วงไหล่ติดจะค่อยๆ มีอาการดีขึ้นและกลับสู่สภาวะปกติได้

วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการไหล่ติด

            ถ้ารู้สึกปวดมากให้ยาแก้ปวดช่วยบรรเทาอาการ ซึ่งใช้เป็นยาสามัญประจำบ้านทั่วไปได้เลย ถ้าไม่ดีขึ้นสามารถขอรับการฉีดยาบรรเทาปวดที่โรงพยาบาลได้ ระหว่างนี้ควรมีการทำกายภายบำบัดไปพร้อมๆ กัน หากไม่มีเวลาไปพบผู้เชี่ยวชาญก็ใช้การทำกายบริหารแทนได้

สามารถเข้าไปดูข้อมูลเกี่ยวกับอาการไหล่ติดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rehabcareclinic.com/